group oo people having a meeting

การปรับตัวขององค์กร เพื่อสู่อนาคต – Change to Win

ลองมองย้อนหลัง ในปีที่แล้ว ผมเห็นการปรับตัวขององค์กร ที่ผมได้ทำงานด้วยมากมาย

โควิด 19 ทำให้ เจ้าของและผู้บริหารเริ่มรู้จัก ลึกซึ้งมากขึ้นกับความสำคัญของ การจัดการ ซัพพลายเชน และเริ่มตระหนักถึงความซับซ้อนของซัพพลายเชนขององค์กร

เอกรัตน์ รุจิรเศรษฐกุล ที่ปรึกษากลยุทธ์

การปรับตัวขององค์กร 10 ประการ

1 ส่วนใหญ่องค์กร ปิดยอดโตได้ตามเป้า ถึงแม้ว่าตอนต้นปี 21 จะไม่ค่อยมั่นใจว่าจะถึงฝันมั้ย

2 กำไร %GP อาจจะบางลง แต่ก็ยังก็อยู่ +/- ตามเป้าหมาย ไม่นับรวมผลกระทบต้นทุนจากโควิด เช่น ต้นทุนทำสร้าง Factory Quanrantine

3 ยอดขายที่เพิ่ม เกิดจาก organic growth ไม่เกิน 10% ยอดขายที่เพิ่ม ส่วนใหญ่ เกิดจาก สินค้าใหม่/ตลาดใหม่

ผมถามเจ้าของหรือผู้บริหารระดับสูง ที่สามารถทำเป้าได้ในปีที่แล้วบางคน ทุกคน มีเป้าหมายและแผนงาน ระยะกลาง 2-4 ปี ( pipieline) สำหรับ สินค้าใหม่/ตลาดใหม่

การปรับตัวขององค์กร
Photo by Nothing Ahead on Pexels.com

4 มากกว่า 80% ขององค์กรที่ผมทำงานด้วย ยังลงทุนด้าน Digital เพื่อปรับปรุง 9 กิจกรรม โลจิสติกส์ ซัพพลายเชน อย่างต่อเนื่อง


ถึงแม้ว่า Roadmap ของแต่ละองค์กร ก็ขึ้นอยู่ Digital Maturity ของแต่ละองคกร แต่ที่เห็นคล้ายๆ กัน คือ

– ต้องการทำงาน online อย่างสะดวกมากขึ้น
– ลดงานและใช้ ซอฟท์แวร์ ที่ฉลาดมาขึ้น มาแทน เพื่อประหยัดเวลา และ แม่นยำมากขึ้น
เช่น บางบริษัทใช้โปรแกรม บช บวกกับ เขียนโปรแกรมเอง ก็ขยับเป็น standard ERP บวกกับ add on อื่นๆ อย่างเช่น Streamline หรือ WMS หรือ บริษัทข้ามชาติ รายหนึ่ง ก็จะปรับเปลี่ยนระบบให้ integration มากขึ้น ดีมาก on-cloud มากขึ้น เช่น เดิมมี ระบบแยกเป็นส่วนๆ เช่น ใช้ SAP บวกกับ ระบบจัดการ สต็อค ก็จะเอาทั้งหมดเชื่อมกันใหม่ และ on-cloud

5 มีข้อน่าสังเกตุ บริษัทข้ามชาติ ขนาดใหญ่ ต้องปรับตัว จากเดิม ใช้ SAP เฉพาะเรื่อง ทางการเงินและ จัดการออเดอร์ แต่ โรงงาน ใน ปท ไทย ใช้ Excel ทำเรื่องการผลิต การควบคุมสต็อค ซึ่งควบคุมต้นทุนยาก ทำให้บริษัท ตัดสินใจ มองหา solution ใหม่ๆ

6 โควิด 19 ทำให้ เจ้าของและผู้บริหารเริ่มรู้จัก ลึกซึ้งมากขึ้นกับความสำคัญของ การจัดการ ซัพพลายเชน และเริ่มตระหนักถึงความซับซ้อน ของซัพพลายเชนขององค์กร

7 การจัดการสต็อคเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แต่ไปเน้นที่ สต็อคเคลื่อนไหวช้า หรือมีเยอะเกินไป
องค์กรที่ผมได้ทำงาน จะไม่ได้ “กด” สต็อคให้ต่ำลงๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่จะผ่อนคลาย หรือปล่อยให้เพิ่มขึ้นด้วย แต่ จะให้ใส่ตัวชี้วัดไปที่ สต็อคเคลื่อนไหวช้า และ สต็อคที่มีมากเกินไปโดยไม่จำเป็น เพื่อที่จะปลดล็อคเงินที่จมกับสต็อคเหล่านี้

8. สต็อคส่วนเกินที่ลดไปได้ มูลค่ารวมๆ ปีที่แล้ว ก็ได้ชี้เป้าไปหลายร้อยล้านบาท หรือ ตัวเลขที่ลดลงต่อบริษัท ประมาณ 8-15% ของสต็อคโดยรวม

9 การกระจายสินค้า คลังสินค้า และ ขนส่ง สำหรับบริษัทที่ได้คุยกันสำหรับ core business ที่เป็น manufacturing หรือ trading หลาย บริษัทได้วางแผนพัฒนา เข้าสู่ automation แต่ได้เห็นการลงทุนน่าจะเป็น 2022-2023 นี้ ส่วนการทำ last mile หลายๆ บริษัทที่คุยด้วย จะขยับไป outsourcing มากขึ้น มากกว่าจะปรับปรุง fleet ตัวเอง

10 ข้อสรุป การปรับปรุง มีเป้าหมายเข้าสู่ การจัดการซัพพลายเชนที่ #ยืดหยุ่น มากขึ้น
โควิด ทำให้เจ้าของและผู้บริหาร ตระหนักและให้ความสำคัญของการจัดการซัพพลายเชนมากขึ้น ดังนั้น การทบทวนโครงข่ายซัพพลายเชนไปปีนี้จะเข้มข้นต่อเนื่อง

ทิศทางต่อไปนี้ น่าจะมุ่งเน้นการบริหารจัดการโครงข่ายผู้ขาย (Supply Network) ซึ่ง บริษัทต่างชาติและ บริษัทขนาดใหญ่ได้ทำมากันเยอะใน 1-2 ปีที่ผ่านมาแล้วครับ

ผู้เขียน: 

ผู้เขียน
เอกรัตน์ รุจิรเศรษฐกุล, CPIM ESLog
ที่ปรึกษากลยุทธ์ โลจิสติกส์และซัพพลาย
ประสบการณ์บริหารซัพพลายเชน กับบริษัทระดับโลกมากกว่า 20 ปี
ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา วิทยากร และอาจารย์พิเศษ

พบกับผลงานของผู้เขียนได้ที่
เพจ Right Strategy by Akarat และ ช่องยูทูป Supply Chain Talk


ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามเราได้ครับ


Comments

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.